พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร
Spread the love

พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร

พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร

     พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร โยคะ (Yoga) และ พิลาทิส (Pilates) เป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำโดยเน้นที่แรงต้านน้ำหนักตัว และความยืดหยุ่นเป็นหลัก การออกแรงของทั้ง 2 ชนิดมีผลประโยชน์มีมากมาย สามารถ เพิ่มความแข็งแรงให้กับสุขภาพ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

     แต่ทั้ง 2 ชนิดนั้นดูเหมือนจะเป็นการออกกำลังกายที่คล้ายกันมาก บางคนก็อาจจะสงสัยว่าจริง ๆ แล้วการออกแรง 2 ชนิดนี้นั้นมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ในบทความนี้จะพาคุณผู้อ่านไปสำรวจความต่างนั้น

พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร

พิลาทิส (Pilates)

     การออกแรงแบบพิลาทิสนั้นออกแบบโดยโจเซฟ พิลาทิส โดยแรกถูกใช้เป็นหลักในการฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อกลับจากสงครามพิลาทิสก็ได้นำวิธีการของเขามาที่สหรัฐอเมริกา และใช้เวลาหลายปีในการปรับแต่งรูปแบบกระบวนท่า

     พิลาทิสมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหลังและส่วนแกนกลางที่มีเสถียรภาพ มีการเน้นหนักในการเริ่มออกกำลังกายแต่ละครั้งด้วยการควบคุมลมหายใจ รวมถึงการหดตัวของกล้ามเนื้อส่วนแกนกลาง โดยประโยชน์ของพิลาทิสมีดังนี้

  1. เพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ
  2. ปรับปรุงความยืดหยุ่นและท่าทาง
  3. นำไปสู่ความสมดุลที่ดีขึ้น
  4. ส่งผลให้อาการปวดข้อลดลง

พิลาทิส VS โยคะ แตกต่างกันอย่างไร

โยคะ (Yoga)

     การออกแรงแบบโยคะนั้นมีที่มาไม่แน่นอน แต่เป็นที่น่าเชื่อถือว่ามาจากแถวเอเชีย โดยมีรากฐานมาจากลัทธิชาแมน หรือพระพุทธศาสนา ซึ่งการจะเน้นไปที่องค์ประกอบ 5 อย่าง คือ การพักผ่อน การออกกำลังกาย การกินอาหาร การคิดบวก และการทำสมาธิ

      โดยทั่วไปจะเห็นได้ว่าเป็นรูปแบบของการออกกำลังกายร่างกายและจิตใจ เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมทางกายและสมาธิ การมีสติและการหายใจลึก ๆ เป็นคุณสมบัติสำคัญในการฝึกโยคะ โดยประโยชน์ของการทำโยคะมีดังนี้

  1. ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย เช่น ลดความกังวล ลดความเครียด
  2. ช่วยพัฒนาระบบการหายใจ
  3. ช่วยบรรเทาอาการปวด โรคข้ออักเสบ
  4. ช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูง

     จากข้างต้น แม้ว่าทั้งคู่จะดูเป็นการออกกำลังกายที่มีลักษณะที่คล้ายกันมาก แต่จากประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง และประโยชน์ที่ได้รับก็มีทั้งเหมือนและต่างกัน แม้จะออกกำลังแบบไหนก็มีประโยชน์ทั้งคู่แต่ก็ต้องปรับตามร่างกายด้วยนะ

 

#สุขภาพ

Recommended Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *